วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

คิดจะปลูกผักทานเองทุกวันง่ายจริงๆนะ

   วันนี้ เป็น Blog สำหรับคำถามของคุณลูกค้า ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย เลยอยากตอบแบบเผยแพร่ค่ะ
  
    คำถามที่น่าสนใจข้อแรกคือ
   ควรใช้กระถางกี่ชุดดี เมล็ดพันธุ์อะไรดีครับ ทำผักสลัด/ผักผัดกับน้ำมันมะกอก รัประทาน 2 ท่านวันละ 1 มื้อทุกวัน เป็นอย่างน้อย

    - ถ้าต้องการทานผักให้ได้ตลอดทุกวัน ต้องมีกระถางอย่างน้อย 20 กระถาง ดูแล้วเหมือนเยอะมากๆ เลยใช่ไหมหละคะ แต่พอเรามาแบ่งปลูกแต่ละสัปดาห์เราก็จะปลูกเพียง 4 กระถาง โดยเราทำการปลูกผักสลัด 1 กระถาง ผักไทย (กวางตุ้ง ผักกาดขาวไดโตเกียว คะน้า) 3 กระถาง เราจะมีผักทานทุกๆวันค่ะ



      
       วิธีการคำนวณของเรานะคะ

       อันดับแรกตีโจทย์ก่อน  ปลูกกี่กระถางถึงจะมีผักกินตลอดทุกวันและผักอะไรบ้าง

      หาความสัมพันธุ์ของตัวแปรก่อนค่ะ โดยเงือนไขการปลูกมีอยู่ว่า
      1 รอบการปลูกผัก = 35 วัน (เวลาโดยทั่วไป) 
       ดังนั้นถ้าคิดการปลูกเป็นสัปดาห์  = 35/7 =  5 สัปดาห์ จะเก็บผักได้ 

      ถ้าต้องการปลูกผักทานทุกวันใน 1 สัปดาห์ 
กำหนดให้ ผักสลัด 2 ต้น /  1 มื้อ  = 14 ต้น/ 1 สัปดาห์  =  1 กระถางพอเพียงอย่างน้อย ( 1 กระถางพอเพียง = 12 ต้น)
กำหนดให้ ผักกาดขาว 6 ต้น / 1 มื้อ  = 42 ต้น / 1 สัปดาห์   = 42/12 = 3 กระถางพอเพียงอย่างน้อย
รวมทั้งหมด 4 กระถาง/สัปดาห์  
     ดังนั้นถ้าต้องการทานผักทุกสัปดาห์จะใช้กระถางทั้งหมด    5 x 4 = 20  กระถางพอเพียงค่ะ


6 กระถาง ได้ผัก 1 กระเช้าและผักอีกสามตระกร้าใหญ่สำหรับ  1 สัปดาห์

 - เมล็ดผักที่ใช้ ควรปลูกผักตามฤดูกาลดูในบทความนี้ค่ะ http://pukbaanbaan.blogspot.com/2014/07/blog-post.html และ http://pukbaanbaan.blogspot.com/2014/09/2.html


ก่อนกินให้แช่น้ำทิ้งไว้ผักก็จะกลับมาสดเหมือนเดิมค่ะ

         แต่สำหรับลูกค้าที่ซื้อชุดปลูกผัก เรามีเมล็ดผักกาดขาวไดโตเกียวกับกรีนโอ้คจัดไว้ให้แล้วค่ะ

  2. เมื่อเก็บทานหมดแล้วในกระถางแต่ละชุดนำมาปลูกใหม่ได้ไหมโดยใช้วัสดุเดิมทั้งหมดเพื่อประหยัดการซื้อใหม่

 - กระถางและโฟมสามารถนำกลับมาใช้ทั้งหมดค่ะ สิ่งที่เป็นวัสดุสิ้นเปลืองคือ ฟองน้ำ เพียงอย่างเดียวค่ะ


ฟองน้ำจะเสียรูปหลังจากที่ผักโตทำให้นำกลับมาใช้ใหม่ไม่ได้


3. คุณค่าทางโภชนาการต่างจากผักปลูกบนดินอย่างไรบ้าง /ความอร่อย /สด/ไม่มีอันตรายจากปุ๋ยที่เติมใช่หรือไม่


กวางตุ้งฮองเต้กับรากสวยๆ


  - คุณค่าทางโภชนาการไม่ต่างจากผักที่ปลูกบนดินค่ะ เพราะเมล็ดผักก็เป็นเมล็ดชนิดเดียวกับที่ปลูกนนดิน ส่วนความอร่อยและสดก็ไม่ต่างกัน  
ส่วนอันตรายจากปุ๋ยเข้าไปอ่านในบทความนี้เลยนะค่ะ http://pukbaanbaan.blogspot.com/2014/08/blog-post_20.html


รอยยิ้มของแม่

ของแถมค่ะ จากที่เพื่อนๆ อ่าน อาจจะรู้สึกว่ามันคงต้องใช้เวลามาก แต่จริงๆ แล้วเราใช้เวลาต่อสัปดาห์ไม่เกิน 15 นาทีเอง สำหรับ 15 นาทีต่อสัปดาห์กับการได้กินผักตลอดทั้งปี เพื่อสุขภาพของเราและครอบครัวที่เรารัก  แถมยังประหยัดกว่าการซื้ออผักทาน (ต้นทุนผักสลัด/ต้น = 4 บาท และผักไทย/ต้น = 2 บาท) ใน supermarket หนทานนี้เป็นทางหนึ่งที่ทำให้เพื่อนๆ ได้พบกับความสุข สุขภาพแข็งแรง และได้รับรอยยิ้มจากคนที่เรารักได้ไม่ยากเลย เพียงแค่ลงมือทำเท่านั้นเอง
จัดทำโดย



                                              

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เด็กกับการปลูกผักไร้ดิน


    เขียนบทความนี้ไกลตัวเหมือนกันนะคะ เพราะยังไม่มีลูก ยังดีที่มีหลานๆ เลยแอบเอาไปให้หลานๆ (ลูกเพื่อนได้ทดลองปลูกกัน)




      เพื่อนเล่าให้ฟังว่าเมื่อลูกได้รับชุดปลูกในครั้งแรก เขาคิดว่ากระถางคือเรือ แล้วนั่งทับทำเหมือนขี่เรือจริงๆ (ดีใจที่กระถางแข็งแรงพอสำหรับน้ำหนักเด็ก 3 ขวบ) และเด็กน้อยอีกคนนำชุดกระถางขึ้นห้องนอน เอาไปนอนด้วย ( เราเลยต้องบอกเพื่อนว่าเอาปุ๋ยแยกออกมาต่างหากนะ มันอันตรายกลัวหลานเปิดเอามาทาน)
เรือของเด็ก


 สมาชิกใหม่ของผักบ้าน...บ้านค่า


     วันที่เริ่มเพาะ เพื่อนเปิด Clip ใน You-Tube ที่เราทำมาให้เด็กน้อยดู ปรากฏว่าหลานทำเองได้โดยไม่ต้องช่วย วิธีนี้เป็นการฝึกการเรียนรู้และสร้างสมาธิของเด็กได้ดีเลยทีเดียว
สำหรับการปลูกครั้งแรก แนะนำให้ปลูกผักกาดขาวไดโตเกียว เพราะปลูกง่ายและโตเร็วค่ะ


วันแรกกับการเพาะผักไร้ดิน


วันแรกกับการเพาะผักไร้ดิน
เตรียมอุปกรณ์เพาะต้นกล้า

พื่อนเล่าให้ฟัง ทุกวันหลังจากเพาะแล้วเด็กๆ จะมาเฝ้ามองและเปิดกล่องเพาะดูทุกวัน วันละหลายครั้ง เ ในแต่ละวัน เด็กๆ ตื่นตาตื่นใจกับการเปลี่ยนแปลงจากเมล็กเล็กๆ ที่ค่อยๆ กลายเป็นต้นกล้าต้นน้อยๆ คำถามจะตามมาทุกวันว่าเมื่อไหร่มันจะโต? แล้วมันจะเป็นอย่างไร? 
"ด้วยคำถามนี้เองทำให้เราลงมือทำสมุดบันทึกผักสำหรับเด็กน้อยขึ้นมา เพื่อเด็กๆจะได้สนุกกับการปลูกผักและสอดแทรกความรู้สำหรับเขาและหลักธรรม ในช่วงเวลาที่เขาสนุกกับกิจกรรมนี้"






      "ปล. การเฝ้าดูการงอกของต้นกล้า โดยการเปิดดูส่งผลต่อการงอกไม่มากนัก ข้อควรระวังเพียงอย่างเดียวคือ อย่าให้กระดาษทิชชู่แห้งเท่านั้น"

คลิปการะเพาะต้นกล้าใน You-tube ค่ะ










่ลงมือทำแล้วครับ


เสร็จแล้วครับ ภูมิใจสุดๆ ดูจากภาพเลยค่ะ

       


แหม! พอเพื่อนเล่าเรื่องนี้ขึ้นมา ก็อยากเห็นความตื่นเต้นของหลานด้วยตาเสียจริงๆ และคิดว่า ถ้ามีลูกก็อยากสอนเขาอย่างนี้เหมือนกัน อยากให้เขาสัมผัสกับการเกิดของต้นกล้าต้นน้อยอย่างใกล้ชิด จะได้อธิบายให้เขาเห็นความพยายามของต้นกล้ากว่าจะเป็นผักให้เรากิน มันต้องผ่านอะไรมาบ้าง เวลากินผักเขาจะได้กินหมด ไม่เหลือทิ้งเหมือนเราตอนเด็กๆ ( เพราะเราไม่ชอบกินผักเอามากๆเลย)

       เมื่อผักพร้อมที่จะลงกระถาง เด็กบางคนอาจพบกับความผิดหวัง เพราะพบว่าผักงอกไม่ได้ทั้งหมด หรือช่วงที่เขานำต้นกล้าลงกระถาง ต้นอาจหักจากการที่ต้นไปโดนโฟมในช่องที่ใส่ 

กล่อนนี้อาจช่วยให้คุณแม่ใช้ในการปลอบลูกได้นะค่ะ (นำมาจากสมุดบันทึกการปลูกผักของเด็กน้อย)

     ถึงช่วงนี้แล้วคุณแม่ต้องหาคำตอบดีๆ ให้ลูกนะคะ หรือถ้าไม่อยากให้เขาผิดหวังมากก็เป็นคนจัดวางต้นกล้าลงกระถางจะดีที่สุดและเพาะต้นกล้าให้มากกว่าหลุมที่มีอยู่ก็จะลดความเสี่ยงที่มีหลุมเหลือ




เสร็จแล้วฝีมือคู่แม่ลูกช่วยกับปลูกค่ะ

ดูวิธีการนำต้นกล้าลงกระถางได้ในนี้นะค่ะ




ข้อควรระวัง การใส่ปุ๋ยเราขอแนะนำให้คุณพ่อ คุณแม่เป็นคนใส่เองนะคะ เพราะปุ๋ยมีความเป็นกรดแบบอ่อนๆ อยู่อาจจะระคายเคืองกับผิวเด็กได้ แต่ผู้ใหญ่อย่างเราไม่มีผลค่ะ




ภาพจากหลานสาวตัวน้อยค่ะ 

สนุกอย่างที่เห็น (ผักอายุได้ 7 วันหลังจากลงกระถางคะ)


ชาวนาตัวน้อย ( ผักอายุได้ 14 วันหลังจากลงกระถาง)



ขอทานก่อนนะค่ะ

 ปิดเทอมนี้ สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ กับลูกๆ มีกิจกรรมปลูกผักทานในบ้านอย่างง่ายๆ ได้ที่นี่นะค่ะ เข้ามาชมแล้วเพื่อนๆ จะติดใจค่ะ